วิธีเลือกอาหารแมว

วิธีเลือกอาหารแมว หากพูดถึงสัตว์เลี้ยงยอดนิยม เชื่อว่าจะต้องมีชื่อของน้องแมวอย่างแน่นอน โดยปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีบรรดาทาสแมวเกิดขึ้นมากมาย เพราะนอกจากความน่ารักของแมวแล้ว แมวบางตัวยังเชื่องและแสนรู้จนทำให้หลายคนหลงเสน่ห์ของเจ้าเหมียว แต่เพื่อให้เจ้าเหมียวอยู่กับเราไปนาน ๆ การดูแลสุขภาพแมวจึงสำคัญ และวิธีหนึ่งที่จะช่วยรักษาสุขภาพน้องแมวได้นั้นคือการให้อาหารเหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อให้น้องเหมียวแข็งแรงในระยะยาว โดยเฉพาะอาหารเม็ดและ barf ซึ่งเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่บรรดาเจ้าของแมวต่างเลือกใช้

วิธีเลือกอาหารแมว ที่ถูกต้องที่ทาสเเมวทุกคนต้องรู้

สามแมวเล่น

รวมเทคนิคให้อาหารแมวให้เหมาะกับช่วงวัย น้องเหมียวแข็งแรงแน่นอน
หากพูดถึงสัตว์เลี้ยงยอดนิยม เชื่อว่าจะต้องมีชื่อของน้องแมวอย่างแน่นอน โดยปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีบรรดาทาสแมวเกิดขึ้นมากมาย เพราะนอกจากความน่ารักของแมวแล้ว แมวบางตัวยังเชื่องและแสนรู้จนทำให้หลายคนหลงเสน่ห์ของเจ้าเหมียว แต่เพื่อให้เจ้าเหมียวอยู่กับเราไปนาน ๆ การดูแลสุขภาพแมวจึงสำคัญ และวิธีหนึ่งที่จะช่วยรักษาสุขภาพน้องแมวได้นั้นคือการให้อาหารเหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อให้น้องเหมียวแข็งแรงในระยะยาว โดยเฉพาะอาหารเม็ดและ barf ซึ่งเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่บรรดาเจ้าของแมวต่างเลือกใช้

เทคนิคให้อาหารแมวให้เหมาะกับช่วงวัย น้องเหมียวแข็งแรงแน่นอน
แมวแรกเกิดถึง 12 เดือน
สำหรับแมวแรกเกิด แน่นอนว่าน้องแมวควรกินนมแม่แมว และเมื่อถึงวัยเลิกนมหรือประมาณ 2 เดือนขึ้นไป สามารถให้อาหารเม็ดผสมน้ำ เพื่อให้ลูกแมวทานง่าย โดยช่วงแรกควรให้ทานวันละ 3-5 มื้อ แต่แบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ โดยหนึ่งวันลูกแมวควรกินอาหารประมาณ 250 กรัม ซึ่งมากกว่าแมววัยอื่น และควรเป็นอาหารสำหรับแมวช่วงวัยนี้โดยเฉพาะ เพราะแมววัยนี้ต้องการสารอาหารอย่างแคลเซียมและฟอสฟอรัสมากเป็นพิเศษ เพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟัน รวมถึงต้องการโปรตีนปริมาณมากเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต แต่หากต้องการให้อาหารแบบ barf ควรเริ่มให้หลังจากเลิกนม และควรเน้นสารอาหารประเภทโปรตีนสูง ไขมันปานกลาง และคาร์โบไฮเดรตต่ำ

แมวโตเต็มวัย หรือ 1 – 6 ปี
โปรตีนและแคลเซียมยังคงเป็นสารอาหารสำคัญที่สุดของแมวช่วงวัยนี้ แต่ควรเพิ่มปริมาณไฟเบอร์เพื่อเสริมประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้แมววัยนี้ยังต้องการวิตามินและกรดไขมันเพื่อเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย สำหรับแมวโตเต็มวัยจะต้องการอาหารวันละ 130-150 กรัม ทั้งนี้ปริมาณอาหารจะขึ้นอยู่กับกิจกรรม ขนาดตัว และสายพันธุ์ของแมวด้วย

แมวแก่ หรือแมวอายุ 7 ปีขึ้นไป
โดยปกติอายุเฉลี่ยของแมวจะอยู่ที่ 10-15 ปี ซึ่งแมวอายุเกิน 7 ปี ก็ถือว่าอายุค่อนข้างมากแล้ว สารอาหารของแมววัยนี้จะไม่เน้นอาหารให้พลังงานสูงมากนัก เพราะเป็นช่วงวัยเคลื่อนไหวช้า ระบบเผาผลาญต่ำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องการโปรตีนและแคลเซียมเพื่อเสริมระบบภูมิคุ้มกันและกระดูก รวมถึงไฟเบอร์ที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น

1.jpeg

ใครที่เป็นทาสแมว อย่าลืมนำเทคนิคดี ๆ เหล่านี้ไปใช้ในการให้อาหารน้องแมวสุดที่รัก เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว และสำหรับทาสแมวท่านไหนที่นิยมสั่งอาหารแมวมาที่บ้าน โดยเฉพาะอาหาร barf ที่ต้องให้ความสำคัญเรื่องความสดใหม่

Cat

ทาสแมวหลายคนเคยสงสัยกันไหมคะว่าอาหารของคนแตกต่างกับอาหารของน้องแมวอย่างไร? หรืออาหารของคนสามารถให้น้องแมวกินได้หรือไม่ ? จริง ๆ แล้วนั้นอาหารของคนไม่สามารถให้น้องแมวได้ค่ะเพราะร่างกายและกระเพาะอาหารของน้องแมวมีความแตกต่างกับของคนเป็นอย่างมากรวมไปถึงคุณค่าทางโภชนาของอาหารที่น้องแมวควรได้รับต่อวันก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงค่ะ

น้องแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ จึงต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูง และเอนไซม์ในกระเพาะอาหารของน้องแมวไม่สามารถย่อยอาหารในกลุ่มจำพวกคาร์โบโฮเดรตได้อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่นำไปสู่โรคอ้วนหรือโรคเบาหวานในน้องแมวนอกจากนี้อาหารของคนยังมีโซเดียมที่สูงเกินความต้องการของร่างกายน้องแมวจึงทำให้น้องแมวที่คุณรักเสี่ยงเป็นโรคไตได้สูง

ลูกแมวขาวดำ

ดังนั้นการให้อาหารของน้องแมวที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมให้น้องแมวมีสุขภาพดีโดยเฉพาะอาหารเม็ดของน้องแมวนั้นเป็นที่นิยมของผู้เลี้ยงแมวทั่วโลกที่ทั้งสะดวกในการจัดเตรียมอาหารให้น้องแมว, เก็บรักษาไว้ได้ยาวนานกว่า อาหารแมวแบบเปียก และ เพื่อส่งเสริมสุขภาพฟันของแมวให้แข็งแรงชะลอการเกิดหินปูนรวมไปถึงยังช่วยให้ทาสแมวอย่างเราประหยัดเงินในกระเป๋า

เรื่องโภชนาการที่ทาสแมว ควรรู้

การเลี้ยงน้องแมวให้มีสุขภาพดี เป็นแมวที่อารมณ์ดีมีขนฟูสวยงามน่ารัก ไม่ใช่เพียงการเลี้ยงดูเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดเท่านั้น แต่ยังต้องดูแลเรื่องอาหารการกินของน้องแมวด้วย เพราะลูกแมวแรกเกิดตัวจิ๋ว จนเติบโตเข้าสู่ช่วงแข็งแรงเต็มวัยนั้น ล้วนมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันไปแต่ละช่วงวัย

นั่นเป็นเพราะแต่ละช่วงแห่งการเติบโตของน้องแมวนั้น ร่างกายจะมีการเสริมสร้างพัฒนาการและการเจริญเติบโตที่ต่างกันออกไป รวมถึงกิจกรรมในแต่ละวัยและการอยู่อาศัยของน้องแมวก็ต่างกันออกไปด้วยฉะนั้น เพื่อให้น้องแมวเติบโตได้อย่างสมวัย ได้รับโภชนาการครบถ้วนตามแต่ละช่วงวัย ตามไปดูกันว่า อาหารแมวที่เหมาะกับน้องแมวแต่ละช่วงวัย ควรเป็นแบบไหน

เลือกอาหารแมวจากรูปแบบ

โดยปกติอาหารแมวมีอยู่ด้วยกันหลัก ๆ 2 แบบ นั่นคือ

  • อาหารแมวแบบแห้ง ที่สามารถเก็บได้นาน จึงเหมาะกับสายประหยัดสุด ๆ ด้วยความที่อาหารแมวประเภทนี้มีราคาไม่สูงมาก ทำให้แม้ว่าน้องแมวที่บ้านจะกินเก่งแค่ไหนก็ไม่รู้สึกว่าเปลือง
  • อาหารแมวแบบเปียก ที่ทั้งชุ่มฉ่ำและกินง่าย เนื่องจากมีส่วนประกอบเป็นน้ำมากถึง 80% ที่สำคัญ อาหารแมวแบบเปียกมักมีกลิ่นและรสสัมผัสที่ดี น้องแมวหลงรักได้ง่าย

เลือกอาหารแมวโดยมีวัตถุประสงค์

ปัจจุบันอาหารแมวที่มีการผลิตออกมานั้น มีให้เลือกซื้อหลากหลายสูตร เพื่อให้รองรับความต้องการของน้องแมวแต่ละตัว เพราะต่อให้เป็นแมวเหมือนกัน วัยเดียวกัน แต่ก็มีสภาพร่างกายที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้น สูตรอาหารแมวที่เลือกซื้อย่อมไม่เหมือนกัน อาทิ

  • สูตรสารอาหารครบถ้วน ที่ช่วยบำรุงร่างกายของน้องแมว โดยไม่จำเป็นต้องมีอาหารเสริมอื่น ๆ ให้วุ่นวายใจ
  • สูตรโภชนาบำบัด สำหรับน้องแมวที่ต้องดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด แต่ขอแนะนำให้ซื้อผ่านทางโรงพยาบาลสัตว์โดยเข้ารับคำแนะนำของสัตวแพทย์ก่อน
  • สูตรทั่วไป หรือที่เรียกกันว่า “ขนมแมว” แม้ไม่มีสารอาหารอะไรเป็นพิเศษ แต่มีกลิ่นและรสสัมผัสที่ยั่วยวนใจต่อน้องแมวเป็นอย่างมาก เหมาะใช้เป็นรางวัลกับน้องแมว เวลาที่เราฝึกน้องให้ทำตามคำสั่ง

เลือกตามสภาพร่างกาย และลักษณะการใช้ชีวิตของน้องแมว

เรื่องสภาพร่างกายและลักษณะการใช้ชีวิตของน้องแมว ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรนำมาใช้เป็นเกณฑ์เพื่อเลือกอาหารให้กับน้องแมวเช่นกัน อาทิ

  • สูตรสำหรับแมวในบ้าน มีไว้ให้น้องแมวที่อยู่แต่ในบ้านและไม่ค่อยวิ่งเล่น จนเสี่ยงที่จะลงพุง
  • สูตรไดเอท มีไว้ให้สำหรับน้องแมวที่ปัจจุบันมีปัญหาอ้วนลงพุง แล้วต้องการลดน้ำหนัก

เลือกจากอายุของน้องแมว

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่า ควรเลือกอาหารแมวให้เหมาะตามแต่ละช่วงวัย เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน และเหมาะต่อการเสริมสร้างพัฒนาการและการเจริญเติบโต และนี่คือ วิธีเลือกอาหารให้เหมาะสมสำหรับช่วงวัยของน้องแมวมากที่สุด

บทความแนะนำ

วิธีอาบน้ำแมว

วิธีฝึกแมวให้เลี้ยงง่าย

แมวน่าเลี้ยง ราคาไม่แพง

นิสัยพันธุ์แมว